นักเทรดมีวิธีการเทรดในตลาดการเงินที่แตกต่างกัน เช่น การดูข้อมูลทางเทคนิค ปัจจัยพื้นฐานหรือว่าปัจจัยด้านจิตใจ แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีการเทรดแบบไหน การเข้าใจสิ่งที่ทำให้ตลาดเคลื่อนไหวนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเทรดแบบไหน เรื่องสำคัญคือคุณต้องเข้าใจตลาดที่คุณกำลังเทรด และข้อมูลพื้นฐานของเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดเหล่านี้ นั่นเป็นเรื่องจริง ไม่ว่าคุณจะเทรดในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ forex หรือว่าตราสารหนี้
ดังนั้นความรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจสำคัญในโลกเพียงบางส่วนถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในการเทรด ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้เรื่องประเทศเศรษฐกิจหลักสิบอันดับแรกของโลกและเจาะลึกว่าความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้เกิดจากอะไร
เราจะมาดูเศรษฐกิจของ:
แต่ก่อนที่จะไปเรียนรู้กัน เราต้องระบุก่อนว่าเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกหมายความว่าอะไรและดูว่าเราใช้อะไรเป็นตัววัด
เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดตามค่า GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ)
เมื่อเราพูดถึงเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก เราหมายถึงเศรษฐกิจที่มีค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศสูงสุด ซึ่งมักเรียกกันย่อๆ ว่าค่า GDP GDP คือมูลค่าตัวเงินจากสินค้าและบริการทุกอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศหรือเศรษฐกิจในระยะเวลาหนึ่ง คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การใช้ค่า GDP วัดการเติบโตของเศรษฐกิจได้ที่นี่
นี่คือประเทศสิบอันดับแรก!
ลำดับ | ประเทศ | GDP หน่วยล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูลจากธนาคารโลก*) |
---|---|---|
1 | สหรัฐอเมริกา | 20.95 |
2 | จีน | 14.72 |
3 | ญี่ปุ่น | 5.06 |
4 | เยอรมนี | 3.85 |
5 | สหราชอาณาจักร | 2.76 |
6 | อินเดีย | 2.66 |
7 | ฝรั่งเศส | 2.63 |
8 | อิตาลี | 1.89 |
9 | แคนาดา | 1.65 |
10 | เกาหลีใต้ | 1.64 |
*ข้อมูลจากธนาคารโลก ณ เดือนพฤษภาคมปี 2020.
1. สหรัฐอเมริกา
สหรัฐอเมริกา (US) อยู่ในตำแหน่งสำคัญของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาตั้งแต่ปี 1890 ในช่วงเวลานั้น อันดับขึ้นมาสูงกว่าสหราชอาณาจักร สหรัฐมีเศรษฐกิจที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดในโลก โดยมีบริษัทที่เป็นผู้นำด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติและน้ำมันที่ใหญ่ที่สุด
ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กและดัชนีแนสแด็กรวมกันแล้วเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมากที่สุด ตลาดตราสารหนี้รัฐบาลสหรัฐก็เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกเช่นกัน
เงินดอลลาร์สหรัฐถูกมองว่าเป็นสกุลเงินสำรองที่สำคัญที่สุดและเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยที่สุดในช่วงเวลาที่เกิดภาวะไม่แน่นอน ธนาคารกลางของสหรัฐคือ ธนาคารกลางสหรัฐ และการตัดสินใจเรื่องนโยบายการเงินของธนาคารสามารถส่งผลต่อตลาดการเงินโลกได้อย่างมาก ไม่ใช่แค่ในตลาดสหรัฐ
2. จีน
ในปัจจุบัน สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับสองของโลกเมื่อวัดจากค่า GDP และเป็นเศรษฐกิจตลาดแบบสังคมนิยม การวางแผนเศรษฐกิจยังคงเป็นหน้าที่ของรัฐโดยใช้แผนการห้าปี โดยมีองค์กรรัฐวิสาหกิจและรัฐวิสาหกิจแบบผสมเป็นองค์กรส่วนใหญ่ของเศรษฐกิจ (มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์) อย่างไรก็ตาม ยังมีภาคเอกชนขนาดใหญ่ที่กำลังขยายตัวซึ่งได้ประโยชน์มาจากการลงทุนของต่างชาติ ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 20 จีนมักจะอยู่อันดับต้นๆ ของเศรษฐกิจที่เติบโตไว โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ตลอดสามสิบปีที่ผ่านมา
จีนเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นประเทศที่ส่งออกสินค้ามากที่สุดในโลก แต่ยังเป็นประเทศที่นำเข้าสินค้ามากที่สุดเป็นอันดับสอง เพราะมีตลาดผู้บริโภคที่เติบโตเร็วที่สุดด้วย
ตลาดหลักทรัพย์ของจีนติดอันดับสามในสิบของโลก โดยวัดจากปริมาณการเทรดและมูลค่าหลักทรัพย์ (ในเซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้นและฮ่องกง) ขนาดตลาดตราสารหนี้ของจีนนั้นเป็นรองแค่สหรัฐ สกุลเงินของจีนคือเหรินหมินปี้ หรือที่รู้จักกันในชื่อหยวน ซึ่งใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวที่โดยหลักแล้ว เอามาเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในระบบตะกร้าเงิน ทำให้มีความผันผวนได้ 0.5 เปอร์เซ็นต์ในแต่ละวัน
จากการคาดการณ์จากหลายแหล่ง เศรษฐกิจจีนคาดว่าจะแซงหน้าสหรัฐ และกลายเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกก่อนปี 2030
3. ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสามเมื่อวัดจาก GDP ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีภาคบริการและฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง แม้ว่าฐานการผลิตจะเริ่มอ่อนกำลังลงในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 ก็ตาม
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นใหญ่เป็นอันดับห้าของโลก เงินเยนญี่ปุ่นมักถูกมองว่าเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยที่สุดในโลกด้วยหลายเหตุผล เหตุผลนั้นรวมถึงจุดยืนทางการทหารที่เป็นกลาง ข้อเท็จจริงที่ว่าเศรษฐกิจมีทั้งงบประมาณและดุลการค้าเกินดุลในระยะยาว และเป็นเพราะอัตราการออมที่สูงและผลกระทบจากการส่งพนักงานกลับประเทศแม่
ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 20 ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ยึดมั่นหรือพยายามทำให้ใกล้เคียงกับนโยบายอัตราดอกเบี้ยเป็นศูนย์ จำนวนประชากรที่ลดลงตั้งแต่ปี 2010 ควบคู่ไปกับประชากรผู้สูงอายุ ถือเป็นความท้าทายที่สำคัญต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นในการก้าวไปสู่ศตวรรษที่ 21
4. เยอรมนี
อันดับที่สี่ในรายการของเราและเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เยอรมนีเป็นหนึ่งในประเทศผู้ส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ค่า GDP ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์มาจากการบริการและเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์มาจากอุตสาหกรรมที่มีการส่งออกเป็นหลัก ทั้งยานพาหนะ สินค้าเคมี เครื่องจักร ยารักษาโรคและผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เยอรมนีเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรปและเริ่มใช้ยูโรเป็นสกุลเงินในวันที่ 1 มกราคมปี 1999 นโยบายการเงินของเยอรมนีนั้นควบคุมโดยธนาคารกลางยุโรป (ECB)
5. สหราชอาณาจักร
สหราชอาณาจักร (UK) เป็นอันดับที่ห้าในรายการของเรา แต่มักจะสลับตำแหน่งกับอินเดียและฝรั่งเศสโดยขึ้นอยู่กับปีและมาตรการวัด UK เป็นเศรษฐกิจโลกที่ให้ความสำคัญด้านการบริการมากซึ่งเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ซึ่งทำให้ภาคการบริการทางการเงินและนครลอนดอนสำคัญมากๆ อีกทั้งลอนดอนยังเป็นศูนย์กลางการเงินที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสอง รองจากนิวยอร์ก
ถึงแม้ว่า UK จะออกจากสหภาพยุโรปในปี 2020 การค้าส่วนใหญ่ยังคงทำกับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปประมาณ 50% เงินปอนด์เป็นสกุลเงินสำรองที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับสี่ และธนาคารกลางอังกฤษเป็นผู้ร่างนโยบายการเงิน
6. อินเดีย
อันดับที่หกในรายการของเราคืออินเดีย โดยเศรษฐกิจของอินเดียเติบโตในศตวรรษที่ 21 ถึง 6 – 7 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ค่า GDP ส่วนใหญ่ประมาณ 65 – 70 เปอร์เซ็นต์มาจากการใช้จ่ายส่วนตัวภายในประเทศ ด้วยตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่เป็นอันดับหกของโลก ภาคการบริการเป็นภาคส่วนที่เติบโตเร็วที่สุดและมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของ GDP
มีธนาคารทุนสำรองอินเดีย (RBI) เป็นธนาคารกลางและสกุลเงินคือรูปีอินเดีย
7. ฝรั่งเศส
เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับเจ็ดของโลก ณ เวลาที่สื่อเผยแพร่คือฝรั่งเศส และใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามในยุโรปรองจากเยอรมนีและสหราชอาณาจักร ถึงแม้ว่าค่า GDP จะได้มาจากภาคบริการมากกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ แต่ภาคการผลิต/อุตสาหกรรมยังมีสัดส่วนประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ค่า GDP ส่วนใหญ่ประมาณหนึ่งในสามมาจากเขตมหานครปารีส ซึ่งปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่ผลิตค่า GDP ได้สูงที่สุดในโลก
เช่นเดียวกับเยอรมนี ฝรั่งเศสเป็นส่วนสำคัญของสหภาพยุโรปและในวันที่ 1 มกราคมปี 1999 ได้นำยูโรมาใช้เป็นสกุลเงินหลัก โดยธนาคารกลางยุโรปเป็นคนวางนโยบายการเงินของฝรั่งเศส
8. อิตาลี
ประเทศในยุโรปประเทศที่สี่ในรายการของเรา ใหญ่เป็นอันดับสามในสหภาพยุโรปตาม GDP อิตาลีอยู่ในอันดับแปดของโลกในขณะที่เขียนบทความนี้ การค้าขายประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์เป็นการค้าขายภายในสหภาพยุโรป โดยหลักแล้วจะค้าขายกับเยอรมนีและฝรั่งเศส แต่มีการค้าขายกับสหรัฐ UK และสวิตเซอร์แลนด์เป็นจำนวนมากเช่นกัน อิตาลีเป็นเศรษฐกิจการผลิตที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหกในโลก ซึ่งมีทั้งรถยนต์ ยารักษาโรค เครื่องจักร เสื้อผ้า อาหารและเฟอร์นิเจอร์ อิตาลียังเป็นประเทศที่ผลิตไวน์มากที่สุดด้วย
เช่นเดียวกับฝรั่งเศสและเยอรมนี อิตาลีเป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่ใช้สกุลเงินยูโรตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปี 1999 โดย ECB เป็นผู้กำหนดนโยบายการเงิน
9. แคนาดา
ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกอันดับ 9 ตามค่า GDP คือแคนาดา และเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในรายการของเรา เศรษฐกิจแคนาดาพึ่งพาภาคบริการเป็นหลัก แต่ยังมีภาคหลักที่สำคัญเช่นกัน แคนาดาถูกประเมินว่ามีมูลค่าทรัพยากรธรรมชาติมากเป็นอันดับสามของโลก และยังเป็นแหล่งน้ำมันสำรองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก โดยเป็นผู้ส่งออกน้ำมันมากที่สุดเป็นอันดับที่สี่ของโลก ด้วยเหตุนี้ ราคาน้ำมันจึงส่งผลต่อเศรษฐกิจของแคนาดาและดอลลาร์แคนาดาเป็นอย่างมาก ซึ่งโลก Forex เรียกกันน่ารักๆ ว่า ลูนี่ ตามนกน้ำแคนาดาที่อยู่บนเหรียญหนึ่งดอลลาร์ของแคนาดา ธนาคารแห่งประเทศแคนาดาเป็นผู้กำหนดนโยบายการเงิน
10. เกาหลีใต้
และอันดับที่ 10 ในรายการของเราคือเกาหลีใต้ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 20 หลังสงครามเกาหลี และยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในหมู่เศรษฐกิจที่พัฒนาแล้วมาจนถึงศตวรรษที่ 21 การเติบโตด้านการผลิตในศตวรรษนี้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยยิ่งกว่าเดิม เช่นวิศวกรรมชีวภาพ หุ่นยนต์ ยานอวกาศและไมโครอิเล็กทรอนิกส์
ธนาคารแห่งประเทศเกาหลีเป็นผู้ควบคุมนโยบายการเงินและสกุลเงินเกาหลีใต้คือวอนเกาหลีใต้ ความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือที่ยังดำเนินอยู่อาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจ ตลาดการเงินและสกุลเงินของเกาหลีใต้ได้
สรุปใจความสำคัญ
เราได้เรียนรู้เรื่องสิบอันดับเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามค่า GDP และเรียนรู้ว่าความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจประเทศเหล่านั้นมาจากไหนกันไปแล้ว แม้ว่าสหรัฐอเมริกายังคงครองอันดับหนึ่ง แต่อีกไม่นาน อาจเป็นไปได้ว่าในช่วงปี 2020 จีนจะกลายเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกแทน และมีโอกาสสูงที่อินเดียจะไต่อันดับขึ้นมามีมูลค่าเหนือเศรษฐกิจยุโรปบางประเทศและอาจสูสีกับญี่ปุ่น
เราเชื่อว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกมากขึ้นและนำมันไปช่วยในการเทรดของคุณได้