รูปแบบกราฟแท่งเทียนคืออะไรและทำไมคุณถึงควรที่จะใช้มัน
กราฟแท่งเทียน ถูกใช้อย่างกว้างขวางโดยนักเทรดมืออาชีพและเป็นที่นิยมมากขึ้นตลอดช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ไปจนถึงศตวรรษที่ 21 แม้ว่ารูปแบบแท่งเทียนนี้เป็นที่นิยมและเป็นประโยชน์มากๆ ในตลาดการเงินปัจจุบัน แต่ประวัติศาสตร์ของกราฟแท่งเทียนนี้ย้อนไปหลายศตวรรษในประเทศญี่ปุ่น กราฟแท่งเทียนถูกสร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 โดยมุเนฮิสะ ฮอมมะซึ่งเป็นพ่อค้าข้าวชาวญี่ปุ่นในตลาดตกลงซื้อขายข้าวโดจิมะล่วงหน้าในโอซากะ ประเทศญี่ปุ่น
ฮอมมะเรียนรู้ว่าการบันทึกราคาตลาดตอนที่เปิด ปิด ราคาสูงและต่ำในทุกๆ วันโดยการวาดเป็นแผนภูมินั้นช่วยให้เขาสามารถทำนายการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตได้ มุเนฮิสะ ฮอมมะใช้รูปแบบกราฟแท่งเทียนของเขาในการเทรดข้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เขากลายเป็นคนที่ร่ำรวยและทรงอำนาจซึ่งมีทรัพย์สินรวมกัน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบเป็นเงินในปัจจุบัน
นี่เป็นเหตุผลที่เพียงพอที่จะทำให้เราเคารพกราฟและรูปแบบแท่งเทียน นอกจากนั้น นักเทรดที่ประสบความสำเร็จหลายคนก็ใช้กราฟแท่งเทียนในปัจจุบัน เพราะว่ามันบอกสัญญาณการซื้อขายที่แม่นยำและเชื่อถือได้ รูปแบบเหล่านี้สามารถช่วยพัฒนาแผนการเทรด และช่วยเสริมกำไรของคุณได้อีกด้วย
ในคู่มือนี้เราจะเรียนรู้เรื่อง:
การเกิดรูปแบบแท่งเทียนในการซื้อขาย
กราฟแท่งเทียนมีความคล้ายคลึงกับแผนภูมิแท่ง กราฟแท่งเทียนมีความคล้ายคลึงกับกราฟแท่ง หรือกราฟเปิดสูงต่ำปิด (OHLC) โดยจุดแตกต่างสำคัญคือพื้นที่ระหว่างราคาเปิดและราคาปิดจะแทนด้วยพื้นที่กว้างซึ่งเรียกว่า “ตัวแท่ง” ของแท่งเทียน เส้นด้านบนและด้านล่างที่แคบกว่า “แท่งเทียน” เรียกว่า “เงา” ส่วนที่อยู่เหนือ “เงา” เรียกว่าเป็น “ไส้เทียน” และส่วนที่อยู่ต่ำกว่า “เงา” คือ “หางเทียน”
ถ้าความแตกต่างระหว่างราคาเปิดและราคาปิดเป็นไปในทางบวก แสดงว่าตลาดเป็นขาขึ้นในกรอบเวลาของแท่ง โดยดั้งเดิมแล้ว พื้นที่เทียนที่กว้างกว่าจะไม่มีสีหรือกลวง แต่ในปัจจุบันมักจะใช้เป็นสีเขียว ถ้าความแตกต่างระหว่างราคาเปิดและราคาปิดเป็นไปในทางลบ ถ้าตลาดเป็นขาลงในกรอบเวลาของแท่ง โดยดั้งเดิมแล้ว “ตัวแท่ง” จะเป็นสีทึบหรือสีเข้มขึ้น และในปัจจุบันมักจะใช้เป็นสีแดง

ทีนี้เรามาดูกราฟแท่งเทียนที่ใช้กันทั่วไปเพื่อนำไปใช้กับการเทรดกันเถอะ เริ่มจากรูปแบบกราฟแท่งเทียนพื้นฐานสองแบบที่แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มตลาดที่ต่อเนื่อง เราจะมาดูกราฟแท่งเทียนที่อาจแสดงให้เห็นสัญญาณการรวมฐาน ความไม่มั่นใจ หรือการขาดความเชื่อมั่นในทิศทางตลาด และสุดท้าย เราจะสำรวจกราฟแท่งเทียนที่อาจแสดงให้เห็นทิศทางตลาดที่เปลี่ยนไป มีสี่แบบที่แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก (จากเชิงลบ) อีกสี่แบบที่แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงเชิงลบ (จากเชิงบวก) และหนึ่งแบบที่สามารถแสดงได้ทั้งความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและลบซึ่งขึ้นอยู่กับแนวโน้มเบื้องต้น คุณสามารถเพิ่มแนวรับและแนวต้านได้ด้วย
แท่งเทียนมาตรฐาน
แท่งเทียนมาตรฐานมี “ตัวแท่ง” ที่แข็งแรง ซึ่งก็คือมีตัวแท่งยาวเมื่อเทียบกับแท่งเทียนทั่วไป และมีไส้เทียนที่ค่อยข้างเล็ก แท่งเทียนมาตรฐานบ่งบอกถึงความต่อเนื่องของแนวโน้มพื้นฐานในปัจจุบันในทิศทางของแท่งเทียนมาตรฐาน

แท่งเทียนมารุโบซุ
แท่งเทียนมารุโบซุคล้ายคลึงกับแท่งเทียนมาตรฐาน แต่ยาวกว่ามาก ดังนั้น “ตัวแท่ง” เลยแข็งแรงกว่า และไม่มีไส้เทียนด้านบนหรือหางเทียน (หรืออาจมีน้อยมากๆ) เหมือนกับแท่งเทียนมาตรฐาน แท่งเทียนมารุโบซุก็แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นสัญญาณต่อเนื่องที่ชัดเจนกว่ามาก ถ้าตลาดปรับตัวในแท่งต่อไปในทิศทางตรงข้ามกับแท่งเทียนมารุโบซุ 50 เปอร์เซ็นต์ของแท่งเทียนมารุโบซุจะถูกมองว่าเป็นแนวรับหรือแนวต้านเริ่มต้น

แท่งเทียนลูกข่าง
แท่งเทียนลูกข่างมี “แท่งเทียน” ที่เล็กมากๆ และมีเงาที่ค่อนข้างยาวทั้งด้านบนและล่าง กราฟแท่งเทียนลูกข่างนับเป็นรูปแบบแท่งเทียนที่เป็นกลางซึ่งอาจส่งสัญญาณการรวมฐาน ความไม่แน่ใจ หรือการขาดความเชื่อมั่นในทิศทางในทันที

ต่อไป เราจะมาดูกราฟแท่งเทียนสี่แบบที่อาจแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกหลังจากการเปลี่ยนแปลงเชิงลบ
แท่งเทียนรูปค้อน
แท่งเทียนรูปค้อนเกิดจากแนวโน้มขาลงก่อนหน้า เมื่อแผนภูมิเป็นรูปค้อน แสดงว่ากราฟตลาดตกลงแล้วก็เด้งสูงขึ้นอีกครั้งในปริมาณที่มากกว่าจุดต่ำสุดมากและปิดใกล้หรือปิดที่จุดสูงสุดของแท่งเทียน เราสามารถยืนยันว่ามันเป็นแท่งเทียนรูปค้อนได้จากการปิดเหนือจุดสูงสุดของแท่งเทียนรูปค้อนใน 1-2 แท่งเทียนถัดไป เป็นการบ่งบอกการกลับตัวของแนวโน้มขาลงก่อนหน้า

แท่งเทียนโดจิรูปแมลงปอ
แท่งเทียนโดจิรูปแมลงปอคลายคลึงกับแท่งเทียนรูปค้อนมากๆ แต่ความแตกต่างระหว่างส่วนเปิดกับปิดนั้นน้อยมากๆ หรืออยู่ในตำแหน่งเดียวกัน แปลว่ามี “แท่งเทียน” สั้นมากๆ หรือไม่มีเลย ส่วนที่เหมือนกับแท่งเทียนรูปค้อนก็คือปิดเหนือราคาสูงสุดของแท่งเทียนโดจิรูปแมลงปอ 1-2 แท่งเทียนถัดไปเพื่อยืนยันการกลับตัวของแนวโน้มขาลงก่อนหน้า

แท่งเทียนรูปค้อนกลับหัว
แท่งเทียนอีกแบบที่อาจแสดงถึงตลาดกระทิงได้ก็คือแท่งเทียนรูปค้อนกลับหัว ซึ่งเป็นแท่งเทียนค้อนอีกด้านหนึ่งที่เกิดขึ้นในแนวโน้มขาลงก่อนหน้า ระหว่างที่เกิดแท่งเทียนรูปค้อนกลับหัว กราฟตลาดตกลงกว่าเดิม จากนั้นพุ่งสูงขึ้น แล้วก็ตกลงไปในจุดที่ต่ำกว่าความสูงเดิม ใกล้เคียงกับความสูงเดิม หรือลงไปต่ำกว่าเดิมอีกครั้ง แต่ตลาดยังต้องมีแรงซื้อมากกว่านี้เพื่อส่งสัญญาณเปลี่ยนเป็นขาขึ้น โดยต้องปิดให้สูงกว่าราคาสูงสุดของแท่งเทียนรูปค้อนกลับหัวภายใน 1 ถึง 2 แท่งเทียนถัดไปเพื่อส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเป็นตลาดขาขึ้น

แท่งเทียนกระทิงกลืนหมี
แท่งเทียนกระทิงกลืนหมีคือรูปแบบการกลับตัวเป็นขาขึ้นที่ชัดเจน บางครั้งก็เรียกว่ารูปแบบการกลับตัวสำคัญ มันแสดงให้เห็นความเปลี่ยนแปลงความเชื่อมั่นใจทิศทางตลาดจากตลาดหมีเป็นตลาดกระทิง ต้องมีแนวโน้มขาลงก่อนหน้า และในระหว่างการก่อตัวของแท่งเทียนกระทิงกลืนหมี ช่องว่างของตลาดจะต้องลดลง โดยตลาดจะขึ้นไปปิดเหนือราคาเปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า ดังนั้นตัวแท่งของแท่งเทียนสองแท่งจะต่างกันทั้งทิศทางและสี จากสีแดงไปสีเขียว และแท่งเทียนกระทิงกลืนหมีจะ “กลืนกิน” แท่งเทียนก่อนหน้าโดยเปิดต่ำกว่าและปิดสูงกว่า ในกรณีนี้ เงาด้านบนและด้านล่างไม่มีความสำคัญเลย

ต่อไป เราจะเปลี่ยนมาดูกราฟแท่งเทียนสี่แบบที่อาจส่งสัญญาณการเปลี่ยนเป็นตลาดขาลงจากแนวโนมขาขึ้น
แท่งเทียนรูปดาวตก
จะเกิดแท่งเทียนรูปดาวตกได้ ก่อนหน้านี้ต้องเป็นแนวโน้มขาขึ้น โดยระหว่างเกิดกราฟแท่งเทียนนี้ ตลาดเด้งสูงขึ้นและตกลงมาในจุดที่ใกล้กับจุดสูงสุดเดิม แท่งเทียนรูปดาวตกมีไส้ด้านบนยาว มีหางเทียนที่เล็กมากๆ หรือไม่มีเลย และมีแท่งเทียนที่ค่อนข้างเล็ก ซึ่งเป็นการปิดที่ต่ำกว่าเดิม จึงเป็นแท่งเทียนสีแดง แท่งเทียน 1-2 แท่งต่อไปจะต้องปิดต่ำกว่าราคาต่ำสุดของ “แท่งเทียนรูปดาวตก” เพื่อยืนยันการกลับตัวเป็นขาลงของแนวโน้มตลาดก่อนหน้า

แท่งเทียนโดจิรูปหินหลุมศพ
แท่งเทียนโดจิรูปหินหลุมศพคล้ายคลึงกับแท่งเทียนดาวตกมากๆ แต่ว่าในกรณีของแท่งเทียนโดจิรูปหินหลุมศพ ความต่างระหว่างตอนเปิดและปิดมีเล็กน้อยมากๆ หรือเป็นราคาเดียวกัน ซึ่งแปลว่าแท่งเทียนมีขนาดเล็กมากๆ หรือไม่มีแท่งเทียนเลย เหมือนกับแท่งเทียนรูปดาวตก แท่งเทียนโดจิรูปหินหลุมศพมีไส้เทียนด้านบนยาวกว่าและมีหางเทียนที่เล็กมากๆ หรือไม่มีเลย และเหมือนเดิม แท่งเทียน 1-2 แท่งต่อไปจะต้องปิดต่ำกว่าราคาต่ำสุดของแท่งเทียนโดจิรูปหินหลุมศพเพื่อยืนยันการกลับตัวเป็นขาลงของแนวโน้มตลาดก่อนหน้า

แท่งเทียนคนแขวนคอ
รูปแบบแท่งเทียนเชิงลบอีกแบบที่เกิดขึ้นได้ก็คือแท่งเทียนคนแขวนคอ ซึ่งเป็นรูปแบบแท่งเทียนดาวตกแบบกลับหัวซึ่งเกิดขึ้นจากแนวโน้มตลาดก่อนหน้านี้ ระหว่างการเกิดรูปแบบแท่งเทียนคนแขวนคอ ตลาดพุ่งขึ้นสูง จากนั้นก็ตกลงและพุ่งขึ้นสูงกว่าเดิมอีกครั้ง จากนั้นก็จบในตำแหน่งเหนือจุดต่ำสุดมาก ใกล้จุดสูงสุด หรือปิดที่จุดสูงสุด แท่งเทียนคนแขวนคอมีแท่งเทียนเล็กและหางเทียนที่ค่อนข้างยาว โดยมีไส้เทียนด้านบนแค่เล็กน้อย หรือไม่มีเลย แต่ยังไงก็ตาม การที่มันจะแสดงให้เห็นว่าตลาดกลับตัวเป็นขาลงยังต้องมีอะไรมากกว่านี้ แท่งเทียน 1-2 แท่งต่อไปจะต้องปิดต่ำกว่าราคาต่ำสุดของแท่งเทียนคนแขวนคอเพื่อส่งสัญญาณกลับตัวแนวโน้มขาลง

แท่งเทียนหมีกลืนกระทิง
แท่งเทียนหมีกลืนกระทิงเป็นแท่งเทียนที่ตรงกันข้ามกับแบบกระทิงกลืนหมี และมีรูปแบบการกลับตัวเป็นขาลงที่ชัดเจน และถูกเรียกเป็นรูปแบบการกลับตัวที่สำคัญ แท่งเทียนส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในความเชื่อมั่นเรื่องทิศทางจากตลาดหมีสู่ตลาดกระทิง โดยแนวโน้มตลาดก่อนหน้า และระหว่างเกิดแท่งเทียนหมีกลืนกระทิง ช่องว่างของตลาดจะต้องเพิ่มขึ้น จากนั้นตลาดก็จะเทขายและปิดต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า ดังนั้น ตัวแท่งเทียนทั้งสองแท่งจะต่างกันทั้งทิศทางและสี จากเขียวไปแดง และแท่งเทียนหมีกลืนกระทิงจะ “กลืน” แท่งเทียนก่อนหน้า หรือก็คือราคาเปิดสูงกว่าและราคาปิดต่ำกว่า และเหมือนกับแท่งเทียนกระทิงกลืนหมี ไส้เทียนด้านบนและหางเทียนไม่มีความสำคัญเลย

แท่งเทียนโดจิขายาว
แท่งเทียนโดจิขายาวเป็นรูปแบบแท่งเทียนที่เป็นได้ทั้งขาขึ้นหรือขาลง โดยมันแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มกลับตัวจากแนวโน้มก่อนหน้า แท่งเทียนโดจิขายาวมีตัวแท่งที่สั้นมากๆ หรืออาจไม่มีเลย และมีไส้เทียนด้านบนและหางเทียนใกล้เคียงกัน รูปแบบแท่งเทียนนี้แสดงให้เห็นจุดเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้น โดยเปลี่ยนจากตลาดกระทิงเป็นตลาดหมีในแนวโน้มขาขึ้น หรือตลาดหมีเป็นตลาดกระทิงในแนวโน้มขาลง แท่งเทียน 1 ถึง 2 แท่งต่อไปจะต้องต่ำกว่าราคาต่ำสุดของแท่งเทียนโดจิขายาวในแนวโน้มขาขึ้นเพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม การกลับตัวเป็นขาขึ้นจะเห็นได้จากการเคลื่อนไหวเหนือราคาสูงสุดของแท่งเทียนโดจิขายาวในแนวโน้มขาลงในแท่งเทียน 1 ถึง 2 แท่งต่อไป

สรุปรูปแบบแท่งเทียน
เราได้ดูรูปแบบแท่งเทียนทั้งแบบเดี่ยวและแบบคู่ไปแล้ว ซึ่งมันแสดงให้เห็นแนวโน้มความต่อเนื่อง ความลังเลหรือการรวมฐาน รวมไปถึงการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่เทรดแบบรายวัน ผู้ที่เทรดแบบสวิงหรือถือตำแหน่ง หรือใช้กลยุทธ์การเทรดแบบอื่นๆ คุณคงสามารถรวมรูปแบบแท่งเทียนไปช่วยในการเข้าหรือออกจากการซื้อขายได้แล้ว รูปแบบเหล่านี้ยังนำมาใช้เพื่อช่วยในการทำกำไรในตำแหน่งเปิดได้อีกด้วย ด้านล่างนี้เป็นการสรุปรูปแบบแท่งเทียนแตกต่างกันที่เราต้องใช้ว่ามันแสดงให้เห็นความต่อเนื่อง การพลิกผัน หรือความไม่แน่นอน และบอกว่ามันมีโอกาสขึ้นหรือลง
กราฟแท่งเทียน | ต่อเนื่อง, การกลับตัว, ความลังเล | มีโอกาสเป็นขาขึ้นหรือขาลง |
---|---|---|
แท่งเทียนมาตรฐาน | ความต่อเนื่อง | ขาขึ้นหรือขาลง |
แท่งเทียนมารุโบซุ | ความต่อเนื่อง | ขาขึ้นหรือขาลง |
แท่งเทียนลูกข่าง | ความลังเล | ไม่ใช่ทั้งสอง |
แท่งเทียนรูปค้อน | การกลับตัว | มีโอกาสเป็นขาขึ้น |
แท่งเทียนโดจิรูปแมลงปอ | การกลับตัว | มีโอกาสเป็นขาขึ้น |
แท่งเทียนรูปค้อนกลับหัว | การกลับตัว | มีโอกาสเป็นขาขึ้น |
แท่งเทียนกระทิงกลืนหมี | การกลับตัว | มีโอกาสเป็นขาขึ้น |
แท่งเทียนรูปดาวตก | การกลับตัว | มีโอกาสเป็นขาลง |
แท่งเทียนโดจิรูปหินหลุมศพ | การกลับตัว | มีโอกาสเป็นขาลง |
แท่งเทียนคนแขวนคอ | การกลับตัว | มีโอกาสเป็นขาลง |
แท่งเทียนหมีกลืนกระทิง | การกลับตัว | มีโอกาสเป็นขาลง |
แท่งเทียนโดจิขายาว | การกลับตัว | มีโอกาสเป็นขาขึ้นหรือขาลง |